วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พิมพ์สัมผัสทักษะที่ไม่ควรมองข้าม

ก่อนยุคของระบบปฏิบัติวินโดว์ที่มีหน้าตาสวยๆ งามๆ ใช้งานง่าย อย่างที่เห็นทุกวันนี้ การใช้งานคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะใช้คำสั่งอะไรก็ตามมักจะพิมพ์ผ่านคีย์บอร์ดเป็นสำคัญ เรียกว่าเป็นยุคของ DOS เจ้า DOS เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นพี่ของวินโดว์ มี Dos ก่อนถึงค่อยมามีวินโดว์

เนื่องจาก Dos เป็นระบบปฏิบัติการที่เน้นพิมพ์คำสั่งและด้วยความที่ต้องมาจิ้มพิพม์คำสั่งทีละตัวบนคีย์บอร์ด ซึ่งก่อให้เกิดความรำคาญแก่ตนเองเป็นอย่างมาก เลยตัดสินใจไปหาตำราฝึกพิมพ์สัมพัสมาศึกษา ใช้เวลาไม่นานนัก ก็ได้ทักษะนี้มาอย่างคล่องแคล่วพอสมควร ทำให้อะไรๆ ที่เกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้นเยอะ

วันดีคืนดีคิดสนุกขึ้นมาอยากรู้ว่าทักษะที่ตัวเองฝึกฝนมานั้นจะถูกต้องตามหลักสากลนิยมหรือไม่ เลยลองสมัครเข้าไปเรียนโรงเรียนฝึกพิมพ์ดีดที่ทางกระทรวงศึกษาธิการรับรองแห่งหนึ่ง อยู่แถวสะพานหัวช้าง ราชเทวี สมัครเสร็จบอกเขาว่าขอสอบเลย ทางโรงเรียนเขาก็จัดให้ ใช้เวลาไม่นานมากนัก คุณครูคนสวยก็บอกว่า "พรุ่งนี้ให้มารับใบประกาศได้เลย สอบผ่านแล้ว" เล่าให้ฟังแค่อยากจะบอกว่าทักษะบางอย่างนั้นไม่จำเป็นต้องมีคนสอน สามารถที่จะขวนขวายให้เกิดขึ้นได้ด้วยตนเอง พูดอีกนัยหนึ่งก็คือเรื่องบางเรื่องแม้ตัวเองก็เป็นครูของตัวเองได้

เด็กสมัยนี้หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็พบเห็นมาเยอะ พิมพ์สัมผัสไม่ค่อยเป็นกัน สาเหตุที่เห็นได้ชัดประการหนึ่งก็คือ มีอุปกรณ์ที่ส่งเสริมเรื่องการจิ้มออกมาให้ได้จิ้มมากมาย เช่น พวกสมาร์ทโฟนต่างๆ ตลอดจนคอมพิวเตอร์ก็ถูกย่อส่วนให้เล็กลง จึงมีทางเดียวคือต้องจิ้มเท่านั้น จึงไม่แปลกนักที่จะถนัดแต่จิ้มไม่ถนัดพิมพ์สัมผัส แบบนั้นก็ว่ากันไป อุปกรณ์มันบังคับ แต่หากมีโอกาสได้ใช้หรือได้จับคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะอันเป็นขนาดมาตรฐานมาตั้งแต่ดั้งเดิม อย่ามองข้ามเรื่องพิมพ์สัมผัส ฝึกๆ ให้คล่อง ให้เร็ว ให้ถูกต้องตามหลักการ ไว้บ้างก็จะเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า ไปสมัครงานเขาไม่ถามนะว่า มีความสามารถจิ้มได้กี่คำต่อนาที มีแต่ถามว่าพิมพ์สัมผัสได้กี่คำต่อนาที เสียสละเวลาฝึกสักระยะหนึ่ง เมื่อฝึกจนคล่องแล้วยังไงก็ไม่มีลืม ประมาณว่าเป็นแล้วเป็นเลย

เก่งคอมพิวเตอร์แค่ไหนก็ตาม หากเวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์แล้วมัวแต่มองคีย์บอร์ดเพื่อหาปุ่มมาจิ้ม ก้มๆ เงยๆ ยังไงก็ดูไม่ดี ทิ้งท้ายไว้แค่นี้ก็แล้วกัน